วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ทัวร์พีพี แบบยิวยิว


ช่วงตอนเย็นๆของวันที่ 10 ก.พ.54 นายชำนาญ รับโทรศัพท์จากเอเย่นทัวร์
บอกว่า "วันที่ 11 ช่วยทำทัวร์พีพีให้หน่อย แขก 10 คน พักอยู่ป่าตอง"
"แขกชาติอะไร?" ผมถามถึงเชื้อชาติของลูกทัวร์ เป็นอันดับแรกก่อนรับงาน
เขาบอกว่า"อิสราเอล"

ผมรู้สึกลมหายใจสะดุดกึก กึก..
ความคิดจะผิดศีลข้อมุสาฯปลิวว่อนอยู่ในสมอง

เกือบจะตอบกลับไปว่า"พรุ่งนี้ไม่ว่าง"...
แต่..อนุสติของเจไดยังชนะด๊าคไวเดอร์อยู่ จึงตอบรับว่า"ได้"

เป็นที่รู้กันว่า ไกด์มือปืนรับจ้าง(Freelance) ไม่ค่อยจะอยากรับ"จ๊อบ"  ลูกทัวร์อิสราเอล
ยิ่งถ้าเป็นกรุ๊ป 10 คนขึ้นไป ก็จะมีหัวหน้ากรุ๊ปเขี้ยวลากดิน
และ "ยิว" เรื่องมาก จุกจิก จู้จี้ เอาแต่ใจ
ที่สำคัญ "เหนียว" กาวช้างยังต้องหลบ
เรื่องทิปอย่าหวัง!.. ถึงคุณจะบริการประทับใจระดับห้าดาว.

แต่เมื่อความเป็นเจไดของผมตอบรับไปแล้ว จึงขอรายละเอียดเพิ่มเติม
ทางเอเย่นบอกชื่อหัวหน้ากรุ๊ป เบอร์ห้อง โรงแรม หาด เวลานัดรับ
ชื่อเรือสปีดโบ๊ทที่เขาจองไว้และท่าเรือที่จะไปลง ให้กับผม..

ส่วนโปรแกรมทัวร์ให้ผมคุยกับหัวหน้ากรุ๊ปเอาเอง
เห็นไหมละ? แม้แต่โปรแกรมทัวร์ ยังไม่มีกำหนดแน่นอน
เอาละว่ะ..งานนี้ได้เละกันไปข้าง แต่น่าจะเป็นข้างไกด์มากกว่า.. 
----
06:20 น. เช้าวันที่ 11 ก.พ.รถตู้มารับผมที่หน้าบ้านตรงตามเวลาที่นัดกันไว้
06:50 น. ถึงโรงแรม เป็นโรงแรมที่รับนักท่องเที่ยวชาวยิวล้วนๆ(รัสเซียไม่เกี่ยว)
เวลานัดรับแขก 07:00 และจะต้องไปลงเรือ 07:30 น.

ผมลงจากรถพร้อมกับบุ๊คกิ้งที่เอเย่นฝากมากับคนขับรถเดินไปที่รีเซฟชั่น เพื่อเช็คชื่อแขก

มีนักท่องเที่ยวผู้ชาย หน้าตายิวยิว(ก็โรงแรมนี้มีแต่ยิวนี่หว่า)
เดินรี่เข้ามาหาผม แล้วถามผมว่า "ยูมารับไอไปเกาะพีพี ใช่ไหม?"
ผมถามกลับไปว่า"ยูมีกี่คน?"
"22 คน" เขาตอบผม
ผมตอบ "โน ซอรี่" ด้วยความมั่นใจ เพราะบุ๊คกิ้งของผมมีแค่ 10 คน ไม่ใช่ 22 คน

07:10 น. ผมยังหาแขกไม่เจอ ความรู้สึกเริ่มรวน
ตัดสินใจโทรไปหาเอเย่น ตรวจสอบชื่อหัวหน้ากรุ๊ปและเบอร์ห้องอีกที
ทุกอย่างถูกต้องตรงกัน

ผมชักเอะใจ ถามกลับไปว่า "แขกเรามีกี่คน?"
เอเย่นตอบมาว่า "22 คนค่ะพี่" เบาๆ แผ่วๆ
"อ้าว...แล้วเมื่อวานบอกผมว่ามี 10 คน" เสียงผมเป็นอุณหภูมิช่องฟีด
"เมื่อวานหนูบอกผิด ขอโทษจริงๆค่ะ" เสียงอ้อนเหมือนนักร้องขอดริ๊ง

ไกด์ ชำมะนาญ ถูกหมกเม็ด หลอกดอกจนได้....
"แล้วจะไปยังไง แขก22คน มีรถตู้คันเดียว"
ผมใช้ทางพระเข้าข่มทำใจแล้วถามถึงปัญหาเฉพาะหน้า
"หนูส่งไป 2 คัน ยังไม่ถึงอีกหรือ? พี่คอยนิดหนึ่ง หนูจะโทรเช็ค" เสียงหล่อนเริ่มร้อนรน
"ยัง" ผมตอบสั้นแล้วปิดเครื่อง

เวลา 07:20 น.ผมท่องคาถาแทงไม่เข้า ยิงไม่ออก 
ก่อนเดินไปหาฝรั่งหน้ายิวที่พบกันตอนแรก

ขณะที่เขากำลังเดินถามคนขับรถตู้วุ่นวาย
และคนในกรุ๊ปของเขา พากันจะขึ้นรถตู้ทุกคันที่เข้ามาจอด

ผมถามเขาว่า"ยูชื่อ มิสเตอร์กรีน ใช่ไหม?"
"ใช่ กูนี่แหละชื่อมิสเตอร์กรีน" พวกหัวเสียซะแล้ว
"ไอนี่แหละ มารับยูไปเกาะพีพีและขอโทษด้วย ที่มีบางอย่างผิดพลาด" ผมตีหน้าเศร้า
"โน!.ยูผิดพลาดทุกอย่าง นี่เวลากี่โมงแล้วและไหนรถ?" ชี้ที่นาฬิกาข้อมือ
เสียงดังและทำท่าเหมือนจะหักคอผม จนไกด์คนอื่นๆหันมามองผม
แบบว่าไอ้นี่ แก่จะตายห่าแล้วยังทำงานไม่เป็น ทำนองนั้น..

ผมเริ่มร้อนทั้งที่ยังไม่มีแดด..
โทรกลับไปที่เอเย่น ถามว่ารถอีกคันถึงไหนแล้ว?
หล่อนบอกมาว่าอีก 3 นาที ถึงโรงแรม ผมปิดหูฟัง

ผมบอกหัวหน้ากรุ๊ป ให้บอกลูกทัวร์ของเขาขึ้นรถคันที่ผมมา 11คน
ที่เหลือให้รอคันที่กำลังจะมาถึงภายใน 3 นาที่
ลูกทัวร์ 11คน ขึ้นรถไม่ทันเสร็จ รถอีกคันก็มาถึง..

เราได้ออกจากโรงแรม 07:40 น.ช้าไป 40 นาที ยังดีที่เป็นทัวร์ไปรเวท
แต่ทางเรือก็โทรมาถามว่าจะถึงท่าเรือกี่โมง?
ผมยืนยันไม่ได้ เพราะมันเป็นช่วงเวลาที่การจราจรกำลังวุ่นวาย
และผมไม่ใช่คนขับรถจึงกำหนดไม่ได้
ถึงผมขับเองก็กำหนดไม่ได้อยู่ดี..

ลงเรือ

08:15 เรามาถึงท่าเรือ
ผมแนะนำให้ลูกทัวร์เข้าห้องน้ำที่ท่าเรือเสียให้เรียบร้อยก่อนลงเรือ
เพราะเรือลำนี้ไม่มีห้องน้ำเหมือนลำอื่น
แต่ถึงจะมี คงไม่มีใครเยี่ยวออก ในขณะที่เรือกำลังแล่นกระโจนไปบนลูกคลื่น

ผมถามหัวหน้ากรุ๊ปก่อนเรือจะออกจากท่าว่า  จะไปจุดไหนก่อน
เขาบอกว่า ไปอ่าวมาหยาก่อน ต่อจากนั้นให้หาจุดที่มีปะการังสวยๆเพื่อดำน้ำ

ผมบอกจุดหมายแรกกับนายท้ายเรือ
ความจริงเป็นนายหัวเรือ เพราะนั่งขับอยู่หัวเรือ

ออกสู่ปากร่องน้ำภูเก็ต

และถ้าสังเกตุดีๆ จะเห็นว่าลูกทัวร์ของผมทริปนี้ มีเด็กสาววัยรุ่นเพียง 2 คน
อีก 20 คน อายุ 50 อัพ บางคนเกือบจะต้องอุ้มลงเรือ
วันนี้ นาย ชำมะนาญ งานเข้าจริงๆ...

เมื่อทุกคนลงเรือเรียบร้อย ผมบอกให้ใส่เสื้อชูชีพ แต่ไม่มีใครเอา
ไม่เอาก็ไม่ว่ากัน พอเรือออกทะเลเดี๋ยวก็เรียกหาเอง

8โมงครึ่ง เรือจึงได้ออกจากท่า มุ่งหน้าออกปากร่องน้ำภูเก็ต
แล้วตั้งลำตรงไปอ่าวมาหยาในเกาะพีพีเล

เรือแล่นออกมา 15นาที เห็นเมืองภูเก็ตอยู่ด้านหลังลิบๆ

15 นาทีต่อมา เมื่อเรือแล่นออกมาจากปากร่องน้ำ อยู่บนเส้นทางไปเกาะพีพีเล
คลื่นหยาบขึ้น เรือกระโจนขึ้นบนลูกคลื่นแต่ละที
สองสาววัยรุ่นกรี๊ดทุกที เหมือนของสำคัญหลุดออกจากตัว

ทำเอาคนขับเรือต้องเบาเครื่องและหันมามองด้วยความกังวล


ถึงตอนนี้ลูกทัวร์หลายคนมีสีหน้าไม่ค่อยจะยิวแล้ว
และเริ่มเรียกขอเสื้อชูชีพจากผม ตามที่คาดไว้


Maya Beach อ่าวมาหยา

9โมง 45 นาที เรือมาถึงอ่าวมาหยา เกาะพีพีเล
(ช้ากว่ากำหนดเพราะต้องชลอความเร็วบ่อย)

ผมถามหัวหน้ากรุ๊ป ว่าจะขึ้นหาดหรือไม่?
ถ้าขึ้น ต้องจ่ายให้อุทยานฯคนละ 200 บาท

หัวหน้ากรุ๊ป ถามกับลูกทัวร์ ทุกคนไม่เอา!..
เห็นความของพวกนี้ชัดๆเลย...

ผมจึงบอกให้คนขับเรือลอยลำให้พวกเขาถ่ายรูป
ประมาณ 15 นาที เราออกมาจากอ่าวมาหยา


อ่าวโล๊ะซามะ

เข้ามาอ่าวโล๊ะซามะ ให้เขาดูว่าพอใจจะลงเล่นน้ำหรือไม่
พวกเขาดูแล้วไม่เอา เพราะไม่มีหาด จึงได้แค่ถ่ายรูป

ออกจากอ่าวโล๊ะซามะ

ออกจากโล๊ะซามะ ผมบอกคนขับเรือให้พาเข้า อ่าวปีเละเป็นจุดต่อไป

อ่าวปีเละ

แต่ ปรากฏว่าน้ำลงจนแห้งมาก เข้าอ่าวปีเละไม่ถึงครึ่งทางเรือติดครืดๆ
คนขับใช้เวลาพอสมควร จึงนำเรือหลุดออกมาปากอ่าวได้

เหตุการณ์นี้ สร้างความไม่พอใจให้หัวหน้ากรุ๊ปพอสมควร
แต่ก็ช่วยไม่ได้ เราได้พยายามแล้ว

ผมพูดกับเขาว่า เราต้องเปลี่ยนโปรแกรมนิดหน่อย จะพาไปดูถ้ำไวกิ้งก่อน
ต่อจากนั้น ไปดูลิง แล้วจะพาไปเล่นน้ำ ดำน้ำ ในอ่าวที่สวยพอกันกับที่นี่
เขาถามผมว่า มันอยู่ที่ไหน?
ผมบอกว่า อยู่อีกด้านของเกาะพีพีดอน

Viking Cave ถ้ำงนกนางแอ่น

ต่อจากนั้นเรามาลอยลำให้ลูกทัวร์ถ่ายรูปหน้าถ้ำไวกิ้งประมาณ 10 นาที
แล้วออกเรือไปหาดลิง ที่เกาะพีพีดอนเป็นจุดต่อไป


Monkey Beach   มังกี้บีช

ที่หาดลิง มีแต่หาดทรายขาวเป็นแป้ง
ยังไม่มีลิงลงมาซักตัว เพราะยังไม่ถึงเวลาของพวกลิง

มีความผิดพลาดเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สอง นายชำมะนาญ เริ่มเครียด
หัวหน้ากรุ๊ปยิ่งเครียดเอากับผม
ถามผมว่า"ไหนลิง?"
"ตอนนี้มันยังไม่ลงมาหรอก มันยังหลับอยู่" ผมตอบแบบกำลังเป็นลิง
"ลิงอะไรว่ะนอนกลางวัน" ไอ้ยิวบ่น แล้วทำหน้าเหมือนลิง

ผมตัดบท"เอายังงี้ ไอจะพาพวกยูไปเล่นน้ำก่อน ถ้ามีเวลาเราจะกลับมาที่นี่อีก"
"ก็ได้" ไอ้ยิวว่า

อ่าวโล๊ะดาลัม

15 นาทีต่อมาเรามาถึงอ่าวโล๊ะดาลัม เป็นอ่าวที่สวยอีกแห่งหนึ่งของเกาะพีพีดอน
เหมาะสำหรับเล่นน้ำ ดำน้ำดูปลาสวยงามและปะการัง
อ่าวนี้อยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะพีพีดอน
ซึ่งอีกด้านเป็นอ่าวต้นไทร

เมื่อเรือทิ้งสมอเป็นที่เรียบร้อย
ผมบอกทุกคนให้เตรียมตัวลงเล่นน้ำได้ เวลาไม่จำกัด
ทุกคนปรบมือเฮ..

ผู้ชายซ้ายมือนั่นแหละหัวหน้ากรุ๊ป จอมยิว แขนขวาใส่แขนเทียม
ถ้าไกด์คนไหนเจอห้วหน้ากรุ๊ปคนนี้เข้า ให้ทำใจได้เลย

ต่อจากนั้นก็เป็นมหกรรมการแก้ผ้าเพื่อเปลี่ยนเป็นชุดลงเล่นน้ำสิครับ พี่น้อง
เปลี่ยนเสื้อผ้าบ้าง เลือกหน้ากากดำน้ำบ้าง ชุลมุนวุ่นวาย

สาวน้อยแต่อึ๋มใหญ่ แก้ผ้าชุดนอกออกเสร็จก่อนใครและลงก่อนใครเพื่อน
ผมจ้องหาจังหวะอยู่แล้ว กด ฉึก ฉึก ฉึก ทันทีเหมือนกัน


ลูกทัวร์ยิวยิว

และกว่าจะลงมาจากเรือได้หมดทุกคน ผมเกือบเป็นลม
เพราะลูกทัวร์แต่ละคนลากหม้อยามาทั้งนั้น(ยกเว้น 2 สาวนั่น)
ท่านผู้ชมดูเอาเองก็แล้วกัน นายชำมะนาญ ไม่ได้มุสาวาทาเลย...
บางคนไปไหนไม่ได้ ยังอุตส่าห์เอาตะกร้าสำหรับเก็บหน้ากากดำน้ำ
มารองนั่งแช่น้ำก็ยังดี


บนหาดโล๊ะดาลัม เมื่อใกล้เที่ยง
นักท่องเที่ยว ฝรั่ง,จีน,ญี่ปุ่น,เกาหลี
หลากหลายสีสรร หลากหลายไซต์ เริ่มมากขึ้น มองจนตาลาย

สาวๆ จากสิงค์โป กลุ่มนี้มาทีหลัง แต่ดังกว่า เพราะว่าไซต์สวย
ผมต้องแอบกดมารูปหนึ่ง
ไม่กล้ากดตอนพวกหล่อนขึ้นจากน้ำ กลัวผัวเปิ้นจะเตะข่อย...


เข้าสู่อ่าวต้นไทร พีพีดอน

เมื่อเล่นน้ำกันจนแต่ละคนปากเขียวได้ที่
หัวหน้ากรุ๊ป บอกผมว่า ให้พาไปที่มีร้านขายเครื่องดื่มและขายอาหาร
ผมถามเขาว่า "จะกินอาหารเที่ยงหรือ?"
เขาบอก"โน ที่เกาะพีพี อาหารแพงจะกลับไปกินที่โรงแรม เราจะซี้อน้ำกินเท่านั้น"
โอ้โห..นี่พวกมึงยิวกันถึงขนาดนี้เชียวหรือ?
ผมได้แต่คิดในใจ ..

ชายหาดอ่าวต้นไทร

ผมพาพวกเขาย้อนกลับมาอ่าวต้นไทร ตอนประมาณเที่ยงเศษ
ก่อนจะขึ้นจากเรือ ผมถามหัวหน้ากรุ๊ปว่า "หลังจากที่นี่ ยูจะไปไหนต่อ?"
หัวหน้ากรุ๊ปตอบ "กลับภูเก็ตและให้ถึงท่าเรือ บ่าย 3 โมง"
"ถ้ายังงั้น ยูต้องบอกทุกคนให้กลับมาขึ้นเรือ ตอนบ่ายโมงครึ่ง" ผมบอกเขา
"ทำไม?" เขาถาม
ผมอธิบายว่า "ตอนบ่ายลมแรง เรือทำความเร็วไม่ได้ ต้องใช้เวลาเกินชั่วโมงจึงจะถึงท่าเรือภูเก็ต"
เขาพยักหน้า ดูจะเข้าใจง่าย

แล้วหันไปบอกกับลูกทัวร์ทุกคน

ทุกคนขึ้นบนหาด บางคนไปเดินเล่น แต่ส่วนใหญ๋นอนอาบแดดอยู่แถวนั้น
และเล่นน้ำอยู่ข้างๆเรือ

สรุปว่า..ผมก็ต้องกลับไปกินข้าวที่ภูเก็ตเหมือนลูกทัวร์ยิว..

บ่ายโมงสี่สิบห้านาที จึงขึ้นเรือครบหมดทุกคน
ผมนับจำนวนเสร็จ บอกคนขับเรือ ซัดยาวเลย ไม่ต้องปราณี..

ออกเดินทางกลับเกาะภูเก็ต

ผมจับเวลา บ่ายสองโมง สี่สิบห้านาที เรือเข้าเทียบท่าที่ภูเก็ต
ชั่วโมงพอดีเป๊ะ
ผมโทรหารถตู้ที่มาส่งเมื่อตอนเช้า บอกให้เข้ามารับได้แล้ว
คนขับรถตู้ไม่ค่อยจะเชื่อผมว่า ผมพาลูกทัวร์ 22 คนกลับมาแล้ว
โดยปกติ ทริปเกาะพีพี จะกลับมาถึงภูเก็ต ตอนสี่โมงครึ่งหรือห้าโมงเย็น
ของผมดันกลับมาตอนบ่ายสองครึ่ง ใครฟังก็ไม่อยากจะเชื่อ..

บ่ายสามโมงตรง รถตู้มารับพวกเรา ไปส่งกลับโรงแรม
ถึงโรงแรม ลูกทัวร์ทุกคนลงจากรถเสร็จ
เดินมาพูดกับผม "เวอรี่กูด แทงค์กิ้ว บ๊ายบาย"
บางคนขอจับมือ..
หัวหน้ากรุ๊ปเป็นคนสุดท้าย เข้ามาตบที่บ่าผม
พูดสองคำ "Thank You"
แล้วรีบเดินเข้าโรงแรม

ผมควักบุหรี่ออกมา ส่งให้คนขับรถมวนหนึ่ง
แล้วจุดให้ตัวเองอัดเข้าเต็มปอด
เพื่อระงับความเครียด...
-----------------------
วีดีโอ ทัวร์พีพี แบบยิวยิว


-----------------------
พบกันใหม่เรื่องต่อไป
ด้วยความจริงใจของ..ชำนาญ ณ.อันดามัน
สวัสดี
------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อ่านเรื่องราวกันก่อนแล้วค่อยต้ดสินใจและแบ่งปัน