วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

แม่ย่านางสะดุ้ง เฮือก...เฮือก!



เมื่อวันเสาร์ ที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา ผมพาแขกไปตกปลาที่แถวๆเกาะแหวก หน้าหาดลายัน เป็นครอบครัวนักท่องเที่ยวชาวสวีเดน ผู้ชายสูงวัยหนึ่ง ชายหนุ่มหนึ่ง,ผู้หญิงสูงวัยหนึ่ง สาวไม่น้อยหนึ่งและสาววัยรุ่นอีกหนึ่ง รวม 5 คน เป็นโปรแกรมสั้นๆ ใช้เวลา 4 ชั่วโมง โดยเรือหางยาว

ความจริง Booking นี้ เขาจองตั้งแต่วันพุธ จะไปบ่ายวันพฤหัสฯ แต่บังเอิญว่า อากาศไม่ดี มีฝนและคลื่นลมแรง จึงเลื่อนมาเป็นวันเสาร์ โดยนัดเวลาบ่ายสามโมง

วันเสาร์บ่ายสองโมงเศษ น้ำทะเลกำลังลงจัด ผมจึงเปลี่ยนแผนนิดหน่อย โดยบอกกับแขกที่กำลังกินอาหารเที่ยงอยู่ที่ร้านอาหาร ซึ่งอยู่ติดกับโรงขายทัวร์ของผม ว่าเราจะต้องออกเรือไปตอนนี้แล้วนะ ถ้าช้าอีก 20 นาที เรือจะออกจากปากคลองไม่ได้ พวกเขามองออกไปที่ทะเล แล้วตอบตกลง

บ่ายสองโมงครึ่ง เรือได้ออกจากท่าในคลองลายัน โดยมีคนขับเรือกับผม(ในถานะไกด์) กับแขก 5 คน เรือรับน้ำหนักพอสมควร พอมาถึงปากคลอง น้ำลงมากแล้ว จนทำให้ท้องเรือครูดกับพื้นทราย เกือบติดแห้งอยู่ตรงนั้น แต่นายท้ายของผมเก๋าพอสมควร แกรอจังหวะตอนคลื่นโถมเข้ามาแต่ละลูก เร่งเครื่องเรืออัดสวนออกไป นั่นแหละจึงหลุดจากปากคลองออกมาได้ แขกปรบมือกราวใหญ่ ยกหัวแม่โป้งให้ พร้อมกับพูดว่า Very good Captain นายท้ายของผมยิ้มฉีกถึงหู

15 นาทีต่อมา เราทิ้งสมอ ตรงหมายระหว่าง เกาะแวกกับหน้าหาดหินกรวย ซึ่งเป็นหมายแรก ของการออกทริปทุกครั้ง ที่ไม่เคยทำให้แขกผิดหวังในการตกปลา

ผมบอกกับแขกว่า “เราจะเริ่มตกกันตรงนี้เป็นจุดแรก จนถึงห้าโมงเย็น แล้วเราจะ Trolling” ผมหมายถึงการแล่นเรือลากเบ็ด

ผู้ชายมีอายุถามผมว่า “ตรงนี้น้ำลึกเท่าไหร่?”

ผมตอบว่า “ประมาณ 30 เมตร” แกพยักหน้ารับรู้

แม่สาววัยรุ่น ถามผมว่า “มีปลาฉลามไหม?”

ผมตอบแบบติดตลกว่า “มี แต่ตัวไม่โตและ Friendly”

เธอไม่พยักหน้า แต่มองผมแบบไม่ตลกกับผมด้วย

ผมถามรวมๆไปว่า ในจำนวนยูทั้งหมด มีใครจะตกปลากี่คน ไอจะจัดเบ็ดให้

ได้รับคำตอบ เป็นผู้ชายสูงวัยหนึ่ง ชายหนุ่มหนึ่งและสาววัยรุ่นจอมฮี้ยวคนนั้น (ผมมั่นใจว่าเป็นแฟนกับหนุ่มคนนั้น เพราะเห็นเขากอดและจูบปากกันมาตลอด) ผมและนายท้ายช่วยกันจัดเบ็ดให้คนละคัน และแนะนำวิธีการตกให้พอเข้าใจ

หลังจากที่ทั้งสามคน หย่อนเบ็ดลงน้ำแล้ว ผมรู้ได้ทันทีว่า ชายสูงวัยมีประสบการณ์มาพอสมควร ชายหนุ่มมีไม่มาก ส่วนสาววัยรุ่นนางนั้นไม่เป็นเลย(ไม่เก่งเหมือนอย่างอื่น) จึงเป็นหน้าที่ของผม ต้องสอนกันทุกขั้นตอน แต่เธอก็ทำได้ในเวลาอันรวดเร็ว (ธรรมชาติของฝรั่งไอคิวสูงอยู่แล้ว)ไม่ถึง 10 นาที หลังจากหย่อนเบ็ด เจ้าหนุ่มเป็นคนแรกที่เย่อปลากะมงขนาดกำลังแกงส้มขึ้นมาก่อน

มีปัญหาเกิดขึ้นนิดหน่อย หลังจากที่ผมปลดปลาออกจากเบ็ดแล้วโยนลงไปในกะบะสำหรับเก็บปลา

สาวน้อยจอมเฮี้ยวพูดกับผมว่า “ทำไม ไม่ปล่อยมันกลับไป?”

ผมมองหน้าเธอแล้วพูดว่า “ไอเข้าใจว่ายูจะเอาปลากลับไปฝั่ง”

เธอบอก “โน ที่ประเทศสวีเดน เมื่อเราตกปลาได้เราจะปล่อยมันกลับลงน้ำไป”

ผมคิดในใจ หล่อนน่าจะรู้ว่า ปลาติดเบ็ดจนปากฉีกไปแล้ว ปล่อยกลับลงน้ำมันก็ตายอยู่ดี สู้เอาไปต้มยำไม่ดีกว่าหรือ แต่ผมพูดไปอีกอย่าง ว่า “ไอขอเอาไปทำอาหารก็แล้วกัน”

เธอยังทำหน้าไม่สบอารมณ์ผม จนคนอื่นๆ ช่วยกันพูดว่า ยกให้ผมเถอะ นั่นแหละเธอถึงได้ยอม แต่ก็ยังพูดสำทับกับผมอีกว่า “ยูต้องฆ่ามันให้ตายก่อน อย่าให้มันทรมานยังงั้น”

บ๊ะ! ยายนี่.. “ไม่ต้องฆ่ามันหรอก เดี๋ยวมันก็ตายแล้ว” ผมพูดยิ้มๆเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลาย

“ต้องฆ่ามันเดี๋ยวนี้” หล่อนไม่ยอม

ผมจึงถามกลับไปว่า “จะให้ฆ่ามันด้วยวิธีไหน?”

“จะทำยังไงก็เรื่องของยู” หล่อนพูดเสียงแข็งๆ แบบเอาแต่ใจตัวเอง

เอาละซิ แม่นี่ร้ายไม่เบา ผมเลยลองต่อยอดดู “ โอ.เค.ไอจะเอาปืนยิงแม่งเลยนะ แบ๊ง..เดท สมอเล่”

“ไม่ตลกเลยนะ” คราวนี้หล่อนแว๊ดใส่ผม ตาสีฟ้า กลายเป็นเขียวเลย

เล่นเอาผมคอหด หันไปสนใจคนอื่น นั่นแหละหล่อนถึงได้เงียบ

ตกอยู่ตรงจุดนั้น ได้ปลาหลายตัวเหมือนกัน เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ปลาน่ากินทั้งนั้น แต่พวกปล่อยกลับลงน้ำหมด ผมกับนายท้ายเรือได้แต่มองตากัน

จนกระทั่ง เกือบ 5 โมงเย็น ผมบอกทุกคนว่า เราจะเก็บเบ็ดแล้วนะ เพราะได้เวลา Trolling กันแล้ว

ผมกับนายท้ายช่วยกันเก็บเบ็ดเสร็จเรียบร้อย เราถอนสมอ แล้วปล่อยเบ็ดลากลงน้ำ นายท้ายบังคับเรือเดินหน้าเบาๆมุ่งหน้าลึกออกไปในทะเล ตำแหน่งหมายที่มีเรือกำลังลากเบ็ดอยู่สิบกว่าลำ

ผมเอาคันเบ็ดให้เจ้าหนุ่มถือก่อน ไม่นานก็ลากปลาหางแข็งขนาดเขื่องขึ้นมา 2 ตัว ทุกคนเริ่มตื่นเต้น

ผมลองแหย่สาวจอมเฮี้ยว “จะให้ไอปล่อยไหม?”

“I don’t know!” หล่อนตอบผม ตาคว่ำ

ผมจึงโยนปลาทั้งสองตัวลงในกะบะ

รอบต่อไปก็เป็นของ ชายสูงวัย ไม่กี่นาทีก็อัดขึ้นมาได้อีก 3 ตัว

วันนี้ปลาหางแข็งเข้ามาฝูงใหญ่ทีเดียว ผมเห็นเรือที่กำลังลากเบ็ด สิบกว่าลำนั้น ต่างก็ได้กันทุกลำ

รอบถัดจากนั้น สาวจอมเฮี้ยวขอลองมั่ง ผมจัดการส่งคันเบ็ดให้ แล้วบอกเธอว่า ให้ยืนอย่างมั่นคง ระวังจะตกจากเรือ เพราะถ้าปลากินเบ็ดจะหนักมาก เธอเชื่อฟังผมแต่โดยดีจัดการหาท่ายืนถือคันเบ็ดอย่างทะมัดทะแมง


เธอถือคันเบ็ดไม่เกิน 5 นาที รอกก็ร้องลั่นขึ้นมา ปลายคันเบ็ดคู้ลงไปเกือบถึงน้ำ แต่เธอก็พยายามอัดขึ้นมา โดยมีแฟนหนุ่มคอยลุ้น จนในที่สุด เธอก็เอาขึ้นมาได้ถึง 7 ตัว เป็นปลาหางแข็งล้วนๆ เธอตื่นเต้นดีใจมาก กระโดด กอดคอแฟนหนุ่มแล้วจูบปากกันเป็นการใหญ่ เฮ้อ...ยุบหนอ พองหนอ ธัมโม สังโฆ



ผมยกหัวแม่โป้งให้เธอแล้วบอกว่า “You are the winner” นั่นแหละเจ้าหล่อน จึงได้ยิ้มให้ผมอย่างจริงใจเป็นครั้งแรก พร้อมกับพูดว่า “Thank you”

ผมรู้สึกโล่งอก ที่ทำให้หล่อนเป็นมิตรกับผมได้

ผมดูเวลาอีก 15 นาที จะ 6 โมงเย็น จึงบอกพวกเขาว่า เราควรจะกลับได้แล้วนะ

ทุกคนตอบ OK พร้อมกัน นายท้ายหันหัวเรือเข้าหาฝั่ง ผมเดินมาทางท้ายเรือเพื่อเก็บอุปกรณ์ต่างๆลงในกล่อง

ขณะที่ผมกำลังก้มๆ เงยๆ ได้ยินเสียงนายท้าย พูดขึ้นว่า “ลูกพี่! ดูอะไรที่หัวเรือ”

ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้ามันแบบสงสัย มันบุ้ยปากไปทางหัวเรือ

ผมจึงได้หันหน้ามองไปทางหัวเรือ....ภาพที่เห็นทำเอาผมมึน

ชิ๊บหาย! แม่เจ้าประคุณทูนหัวจอมเฮี้ยวของผมขึ้นไปนั่งคร่อมหัวเรือรับลมสบายใจเฉิบ


ผมงี้มึนตึ๊บ!.. ไม่รู้จะบอกเจ้าหล่อนว่ายังไงดี เพราะถ้าบอกไปว่าตรงที่เจ้าหล่อนนั่งทับอยู่นั่นเป็นที่อยู่ของแม่ย่านาง เจ้าหล่อนคงไม่เข้าใจแน่ๆ จึงตัดสินใจ ปล่อยเลยตามเลย

สงสารแต่แม่ย่านาง ไม่รู้ว่าจะหายใจออกหรือเปล่า!? เจอเอาเด็กฝรั่งพิเรนเข้า กว่าจะถึงฝั่ง แม่ย่านางคงจะสะดุ้งไปตลอดทาง

เฮ้อ...เป็นความซวยของแม่ย่านางอย่างช่วยไม่ได้จริงๆ!!!

-----------------

วีดีโอ ลากปลาที่เกาะแวก



-------------------------------------

2 ความคิดเห็น:

อ่านเรื่องราวกันก่อนแล้วค่อยต้ดสินใจและแบ่งปัน