เมื่อประมาณเที่ยงวัน ของวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา พรรคพวกของผมซึ่งเป็นเจ้าของเรือตกปลาลำใหม่ ได้ชวนผมตะลุยสายฝนไปดูเรือของเขา ที่ท่าเทียบเรือประมง "บ้านทับละมุ" ซึ่งอยู่ติดกับฐานทัพเรือกองเรือภาคที่3 และบริเวณเดียวกันกับท่าเทียบเรือท่องเที่ยว ที่นำนักท่องเที่ยวไปหมู่ "เกาะสิมิลัน" ในช่วงฤดูการท่องเที่ยว โดยใช้ถนนสาย4 (เพชรเกษม) ทางไปหาดเขาหลัก จ.พังงา
เรือของพรรคพวกลำนี้ ไม่ใช่เรือใหม่ เป็นเรือประมงเก่า ซื้อมาปรับปรุง ตกแต่งใหม่ให้เป็นเรือตกปลาและวางแผนจะทำเป็นเรือทัวร์ตกปลา ในอนาคตด้วย
เรือลำนี้ ออกจากภูเก็ต เมื่อ 8 วันที่ผ่านมากับจำนวนคน 9 คน(มีอายุตั้งแต่ 20ขึ้น จนถึง 50ขึ้น) แล่นฝ่าพายุ คลื่น ลม หน้ามรสุมของทะเลอันดามัน ที่ทวีกำลังรุนแรงขึ้นทุกวัน มุ่งไปตกปลาที่บริเวณหมู่เกาะสิมิลัน ซึ่งเป็นเที่ยวแรก ของการออกไปตกปลาของเรือลำนี้ หลังจากที่ได้รับการปรับปรุงและซ่อมแซมเสร็จแล้ว เป็นการทดลองเรือและทดลองสมรรถนะของเครื่องยนต์ ไปในตัว
ความจริง กัปตันเรือและพรรคพวกที่ไปตกปลาชวนผมไปด้วย แต่ผมติดภาระกับเรื่องหมอนัดตรวจตาที่เพิ่งผ่าตัดมา ก็เลยไปไม่ได้ ถ้าไปได้คงจะได้เก็บภาพสวยๆ และคลิปวีดีโอ มันส์ๆ ตอนเย่อปลาตัวโตๆ มาฝากท่านผู้ชม คิดว่าเที่ยวหน้าคงจะได้ไปตะลุยกับเขาด้วยแน่ๆ
เมื่อเราไปถึงท่าเทียบเรือประมงที่ทับละมุนั้น ฝนยังตกตลอดเวลา ตอนนั้นเรือได้เข้ามาจอดทิ้งสมออยู่ในแม่น้ำก่อนแล้ว
พรรคพวกผมที่เป็นเจ้าของเรือ ได้รีบติดต่อขอเทียบท่ากับเจ้าหน้าที่ของท่าเรือเสร็จเรียบร้อย แล้วจึงได้โทรศัพท์ ให้กัปตัน(ไต๋เรือ) นำเรือเข้ามาจอดเทียบท่า หลังจากนั้นในเวลาไม่นาน
-----------------
เมื่อเรือเทียบท่าเสร็จสรรพเป็นที่เรียบร้อย ทุกคนจึงได้ทักทาย สนทนาพูดคุยกัน เรื่องพูดคุยส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับสถานการณ์ ของการแล่นเรือ การตกปลา สภาพคลื่นลมในทะเลและปลาที่ติดเบ็ดแล้วหลุดไป เอาขึ้นเรือไม่ได้ (ซึ่งเป็นปลาตัวใหญ่เสมอและของทุกคนด้วย ฮ้า ฮ้า )
ฟัง ฟังแล้ว พอสรุปได้ว่า การออกไป 8 วันนั้น ได้ตกปลาจริงๆ แค่ 4วัน ที่เหลืออีก 4วัน 4คืนนั้น มัวรบอยู่กับ พายุ ฝน คลื่น ลม ตลอดเวลาและมีวัยรุ่น 3 คน ในจำนวน 9 คนนั้น เมาคลื่นตลอดเวลาเหมือนกัน
จำนวนปลาที่ตกได้มา มีหลากหลายประเภท “ไต๋เรือ” คิดคร่าวๆ ว่ารวมน้ำหนักแล้วคงไม่เกิน 900 กิโลกรัม เป็นปลาที่มีน้ำหนักตั้งแต่ ไม่ถึง 1 กิโลกรัม จนถึงตัวที่มีน้ำหนักมากที่สุด 20 กิโลกรัม แต่เป็นปลาประเภทที่มีราคาดี ราคาขายส่งให้พ่อค้าคนกลางโดยเฉลี่ย ตกกิโลกรัมล่ะ 80บาท ถึง 160 บาท แต่เมื่อไปอยู่ในตลาดสด ราคาจะอยู่ที่ กิโลกรัมล่ะ 120 บาท ถึง 220 บาท
ตัวโตๆ อยู่ใต้น้ำแข็งลึกลงไป
-----------------------------
เห็นไหมครับ ท่านผู้ชม คิดจะค้าๆ ขายๆ เป็นพ่อค้าคนกลางดีที่สุด
เราอยู่ที่เรือจนได้กินข้าวมื้อค่ำท่ามกลางบรรยากาศที่มีทั้งลมและฝนกับปลาทอดกรอบ ต้มยำปลา แกงส้มปลาและปลาผัดฉ่า(อยู่บนเรือตกปลา ใครจะไปหาหมู หาไก่กิน ถือว่าไม่บ้าก็เมาแหงๆ) ซึ่งเป็นปลาชั้นดี ราคาแพงทั้งนั้น
ส่วน “ไต๋เรือ” และคนอื่นๆ ก็สรวลเสเฮฮา อยู่ที่ ท้ายเรือ ตามประสาลูกทะเลที่หลายวันได้กลับเข้าฝั่ง ทุกคนชวนผมร่วมวงด้วย แต่เป็นครั้งแรกที่ผมปฏิเสธ (ฮิ ฮิ เหลือเชื่อ) สาเหตุเพราะตานั่นแหละ
บรรยากาศ การสังสรรค์ของลูกทะเลที่ท้ายเรือเมื่อฝนกำลังตก
-----------------------------------------
วันนั้น พวกเรากลับออกมาจากท่าเรือ “ทับละมุ” ประมาณ 3ทุ่มเศษ ฝนยังตกตลอดเวลา
แล้วพบกันใหม่ครับ
ชำนาญ ณ.อันดามัน
05/07/2010
-------------------------------------
พื้นที่แสดงความคิดเห็น
(กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ ขอบคุณ)
-------------------------------------
คุณพี่ครับ เดียวนี้ทันสมัยเดิ้นมาก ๆ มีคลิปให้ดูด้วย แหล่ม ๆ
ตอบลบตอบ คุณน้องโกศล
ตอบลบรู้มั๊ย ความจริงมันควรจะมีตั้งนานแล้ว กล้องก็ตัวเดิม ที่ไปเที่ยวถ่ายรูปมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ
ถ่ายคลิปก็ถ่ายเป็นตั้งนานแล้ว แต่ไม่เคยนึกจะถ่ายคลิปมาลงในบล็อก ทั้งๆเวลาที่ผ่านมามีเรื่องน่าถ่ายมาลงเยอะแยะ ได้แต่คิดถ่ายภาพนิ่งแค่นั้น ไม่เคยคิดถ่ายคลิป
มาคิดๆดูแล้วมันน่าเชือดคอตัวเองนัก เสียโอกาส เสียเวลาไปตั้งมากมายกับความโง่และความซื่อบื้อของตัวเอง
พี่เพิ่งกลับมาจาก จ.สตูล เมื่อ5โมงเย็น(8กค)ไปเข้าพบท่านผู้ว่าฯมา แล้วจะเขียนเล่าให้ฟัง ว่าได้อะไรมาบ้าง แต่ไม่มีเรื่องให้ถ่ายคลิปเลย(เซ็งจริงๆผับผ่า)
เปิด เมลย์ เจอคอมเม้นท์ของคุณน้องดีใจจัง(เหมือนคนไม่เคยมีเพื่อน) รีบคลิกก่อนเลย
ขอบคุณ ขอบคุณและขอบคุณ
ชำนาญ
พี่ครับอยากทราบว่าราคาเป็นแบบไหนครับในการออกทะเล1ครั้งแล้วก็ไปได้กี่คนครับ แล้วมีอุปกรณ์ให้เช้ายืมมัยครับมีบริการสอนการตกปลามัยครับแล้วไปเวลากี่โมงถึงกี่โฒงครับในการออกเรือ1ครั้ง
ตอบลบ