วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ลากทูน่า ทำซาซิมิ ที่เกาะรายา

                วันที่ 9 ก.ค.54 ผมได้รับคำชักชวนจากพรรคพวกอีกครั้ง ให้ไปร่วมทริป ตกปลาที่เกาะรายา 2 วัน 1 คืน เป็นทริปพักผ่อนสบายๆ ไม่เน้นการตกปลามากนัก ประมาณว่า ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่ซีเรียส
                ผมตอบตกลงสบายๆ เหมือนกัน เพราะๆไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายใดๆ
                หลังจากลำเลียงเสบียงอาหารและเครื่องดื่มประเภทเบียร์และเหล้าลงเรือเป็นที่เรียบร้อย
                บ่าย 3 โมงของวันที่ 9 ก.ค.เรือออกจากท่าเรือแพแสง ในคลองภูเก็ต โดยมีไต๋เอกและลูกเรือ 1 คน คณะพวกเราอีก 6 คน รวมเป็น 8 ชีวิต ทริปนี้ค่อนข้างจะกร่อยไปสักนิด เพราะไม่มีผู้หญิงเป็นดอกไม้ประดับเรือแม้แต่คนเดียว

                เรือแล่นออกจากคลองภูเก็ตด้วยทัศน์วิสัยปรอดโปร่ง ท้องฟ้าแจ่มใส เมฆขาวลอยอ้อยอิ่ง อย่างเกียจคร้าน (สำนวน อิอิ..) ทะเลสีฟ้าเหมือนสีน้ำทะเล (ก็ใช่นะสิ ไอ้บ้า!.) ราบเรียบเหมือนน้ำในคลอง (เว่อร์เข้าไป)
                ทริปนี้ผมเน้น ถ่ายคลิปวีดีโอกับถ่ายภาพวิว (แน่นอนอยู่แล้ว) และเก็บภาพบรรยากาศ ทั่วไป เอามาฝาก มิตรสหายในเฟสบุ๊ค ตามที่ได้ให้คำมั่นสัญญาเอาไว้
                ไต๋เอกใช้ความเร็วประมาณ 5 น๊อต มุ่งออกสู่ปากอ่าว ทางกราบซ้ายด้านทิศตะวันออก มองเห็นรีสอร์ทบนเขาเกาะสิเหร่ชัดเจน ผมมองดูแล้วเสียวว่ามันจะถล่มลงมาสักวันหากว่าฝนเกิดตกหนักๆ
 
                เรือแล่นผ่านเกาะตะเภาน้อยทางกราบซ้ายของเรือ อันเป็นที่ตั้งประภาคาร ไฟนำร่องเข้าคลองภูเก็ต  ทางขวาเป็นคลังน้ำมัน ท่าเรือน้ำลึกอ่าวมะขาม แหลมพันวาอันเต็มไปด้วยรีสอร์ทและบ้านพักตากอากาศมากมาย ผมมองดูด้วยความเศร้าใจมากกว่าชื่นชม 
                 ขณะที่เรือเรากำลังแล่นออกไปยังปากอ่าว มีเรือประมงแล่นจากทะเลสวนกลับเข้ามาบ้าง กำลังแล่นออกทะเลไปบ้าง เรือสปีดโบ๊ทนำนักท่องเที่ยวกลับจากเกาะพีพี แล่นตามกันมาเพื่อเข้าอ่าวฉลองหลายลำ ทางทิศตะวันออกมองเห็นเกาะไม้ท่อนนอนทอดตัวสงบนิ่งอยู่ลิบๆ
                 บนดาดฟ้าเรือ ทีมงานกำลังช่วยกันตระเตรียมผูกเบ็ดเข้ากับสายเบ็ด ซึ่งเน้นสายที่ไม่ใช้คันเบ็ด อันเป็นความถนัดเฉพาะตัวในการตกปลาหน้าดินในตอนกลางคืน ประเภทปลาหัวเสี้ยม ซึ่งมีแหล่งหากินอยู่ในบริเวณใกล้ๆเกาะรายา 
                เมื่อเรือแล่นออกมาอยู่ที่ตำแหน่งระหว่างเกาะภูเก็ตกับเกาะรายาใหญ่ อันเป็นช่องทางลมผ่าน คลื่นที่ม้วนเข้ามาหาเรือ เริ่มมีความสูงระดับ 2-3 เมตร พรรคพวกผมบางคนเริ่มกินยาลม ดมยาหม่องกันแล้ว
                ประมาณ 5 โมงเย็น ไต๋เอกกับลูกเรือ ช่วยกัน ลงเบ็ดเพื่อลากปลาโอ ซึ่งเป็นปลาในตระกูลปลาทูน่า และก็ไม่ผิดหวัง เมื่อได้ปลาโอลายขึ้นมาหลายตัว
                กระทั่ง 6 โมงเศษ ดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าทะเลอันดามัน ไต๋เอกบอกให้ลูกเรือทิ้งสมอตรงตำแหน่ง กลางร่องน้ำ ระหว่างเกาะภูเก็ตกับเกาะรายาใหญ่ ที่ระดับน้ำลึกประมาณ 60 เมตร ดูที่หน้าจอซาวเดอร์ มีเชื้อปลาหนาแน่นพอสมควร แต่ลมแรงมาก คลื่นจึงใหญ่ตามไปด้วย
                หลังจากทิ้งสมอเรียบร้อย นักล่าทั้งมืออาชีพและสมัครเล่น จึงได้เหวี่ยงเบ็ดลงทะเล แต่ยังไม่มีใครได้เย่อปลา สมอเรือเกิดกาว (สมอไม่ยึดพื้นดิน) เสียก่อน ทำให้เรือเลื่อนถอยหลังเลยเป้าหมายไปตามแรงกระแทกของคลื่นห่างออกไปเรื่อยๆ ไต๋เอกสั่งให้ถอนสมอและทิ้งใหม่อีก 2 ครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะยิ่งมืดค่ำ คลื่นและลม ยิ่งมีกำลังแรงขึ้นทุกที และหลายคนเริ่มมีอาการเมาคลื่นหนักขึ้น
                จนในที่สุด ไต๋เอกต้องตัดสินใจพาเรือแล่นเข้าหาเกาะรายา ในเวลากลางคืน
                เกือบ 3 ทุ่ม จึงได้ทิ้งสมอที่หน้าอ่าวเคยทางด้านทิศตะวันออกของเกะรายาใหญ่ อันเป็นตำแหน่งที่คลื่นลมสงบที่สุด ซึ่งเรือประมงและเรือทัวร์มาทิ้งสมอหลบกันที่ตำแหน่งนี้
                หลังจากเรือเข้าที่เข้าทาง โต๊ะอาหารค่ำเริ่มขึ้น พร้อมๆกับวงเมรัยก็เริ่มตั้งขึ้นเช่นกัน โดยมีซาซิมิเนื้อปลาโอลายที่ลากมาได้เมื่อตอนเย็นเป็นกับแกล้มหลัก
                เวลาอาหารค่ำผ่านไปไม่นานก็เลิกรา ต่างทยอยเข้าหาที่จำศีลภาวนาให้สว่างไวๆ แต่วงเมรัยยังดำเนินต่อไป โดยมีผมเป็นตัวหลัก มีไต๋เอกกับลูกเรือเป็นตัวประกอบ
ถ้ามองบรรยากาศโดยรวมก็ไม่เลวนัก ประกอบด้วยดวงจันทร์แรม 9 ค่ำครึ่งดวงลอยเด่นอยู่กลางท้องฟ้า รายรอบด้วยแสงไฟระยิบระยับ จากบนเกาะรายาและจากเรือปั่นไฟ ในระยะไม่ไกล ลมทะเลพัดผ่านเบาๆ คลื่นเล็กโยกคลึงลำเรือพอวาบหวิว นับว่าน่าร่ำสุราสนทนาเป็นยิ่งนัก แต่น่าเสียดายที่ขาดสหายผู้รู้ใจ รสชาติของสุราในค่ำคืนนี้จึงจืดชืดเป็นอย่างมาก สำหรับเฒ่าทะเล ชำนาญ ณ.อันดามัน
กระทั่ง เที่ยงคืน จึงได้เลิกราและคู่สนทนา อำลากันเข้านอน
เช้าวันรุ่งขึ้น ทุกคนตื่นขึ้นมาด้วยความกระปรี้ กระเปร่า สดชื่นหลังจากการได้นอนหลับพักผ่อนกันเต็มที่และอาการเมาเรือหมดไป กิจกรรมเล่นน้ำทะเลก็เกิดขึ้นด้วยความสนุกสนาน
ประมาณ 9 โมง ร่วมวงกันกินข้าวเช้า โดยมีแกงส้มปลาโอและปลาทอดกรอบเป็นอาหารหลัก เกือบ 10 โมง เรือสปีดโบ๊ทจากอ่าวฉลองเริ่มทยอยนำนักท่องเที่ยวเข้ามาหลายลำ ไต๋เอกบอกทุกคนให้เตรียมตัวจะถอนสมอเคลื่อนย้ายเรือออกจากตำแหน่ง
เกือบ 11 โมง ไต๋เอกพาเรือมาอยู่ในตำแหน่งกลางช่องระหว่างเกาะภูเก็ตกับเกาะรายาอีกครั้ง ซึ่งเป็นตำแหน่งการลากเบ็ดเมื่อวานตอนเย็น และปฏิบัติการล่าก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ ลงทั้งสายลากและคันลาก และไม่นาน ปลาโอหลังดำก็ทยอยกันขึ้นมา ครั้งล่ะ 4 ตัวบ้าง 5 ตัวบ้าง
ไต๋เอก บังคับเรือแล่นวนอยู่บริเวณนั้น จนหลังบ่าย  3 โมง จึงเก็บเบ็ดบ่ายหน้ากลับเกาะภูเก็ต โดยมีปลาโอหลังดำประมาณ 80 ตัว น้ำหนักตัวล่ะไม่ต่ำกว่าครึ่งกิโลฯ เป็นรางวัลปลอบใจ
เรากลับถึงท่าเรือแพแสงเมื่อเกือบ 5 โมงเย็น โดยมีฝนห่าใหญ่กำลังตกต้อนรับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
ประมวลภาพ

ท่าจอดเรือท่องเที่ยวในคลองภูเก็ต

รีสอร์ทบนเขาเกาะสิเหร่

เรือสปีดโบ๊ทกลับจากเกาะพีพี

เรืออวนลากกำลังมุ่งหน้าออกสู่ที่หมาย


เกาะไม้ท่อน ทางด้านทิศตะวันออกของเกาะภูเก็ต

เรือวางไซดักปลา ที่หน้าเกาะไม้ท่อน

เตรียมเบ็ดตกปลาหน้าดิน

เบ็ดราว สำหรับตกปลาฉลาม

เกาะตะเภาน้อย ปากร่องน้ำภูเก็ต

เตรียมลงเบ็ด

ยอช์ท กำลังมุ่งหน้าเข้ามารีน่าแห่งใดแห่งหนึ่ง ในเกาะภูเก็ต

กำลังลากปลาโอเข้าหาเรือ

ปลาโอลาย ในตระกูลทูน่า

ลากขึ้นมาครั้งล่ะ ไม่ต่ำจาก 5 ตัว

อาทิตย์กำลังจะลับฟ้าอันดามัน

มุ่งหน้าสู่เป้าหมาย โดดเดี่ยว

ลาลับกับขอบฟ้า

เรือลำน้อย กำลังมุ่งหน้า หาเป้าหมาย ท่ามกลางความเวิ้งว้างห่างไกลเช่นกัน

ซาซิมิเนื้อปลาโอลาย สดๆ จากทะเล

จันทร์ครึ่งดวง คืนแรม ๙ ค่ำ หน้าเกาะรายาใหญ่

แสงไฟยามค่ำคืนจากเกาะรายา

เล่นน้ำ ยามเช้า ในอ่าวเคย ทิศตะวันออกของเกาะรายาใหญ่


ปลาโอหลังดำ ในตระกูลทูน่าเช่นกัน

อ่าวเคย เกาะรายาใหญ่


เรือสปีดโบ๊ท นำนักท่องเที่ยวจากภูเก็ต สู่เกาะรายา

------------------------------------
วีดีโอ



---------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อ่านเรื่องราวกันก่อนแล้วค่อยต้ดสินใจและแบ่งปัน