วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ชีพจรลงเท้าเฒ่าอันดามัน(ตอน1/สุพรรณบุรี-16ก.ค.54)

                เข้าพรรษาปีนี้ แทนที่จะได้อยู่บ้านจำศีลภาวนา เหมือนคนอื่นๆ กลับกลายเป็นต้องนั่งรถ ตระเวณไปเกือบทั่วประเทศ ยิ่งกว่าทัวร์คอนเสิร์ตวงดนตรีลูกทุ่งเสียอีก
เป็นการเดินทาง ที่แสนเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ทรหด โหด มันส์  ฮาและประทับใจ  ผ่านหลายจังหวัด หลายภาค ทั้งภาคกลาง อีสานใต้ อีสานเหนือ อีสานตอนบน ภาคตะวันตก ทั้งเลียบแม่น้ำ ข้ามภูเขา เข้าวัดบนดิน วัดใต้น้ำ ชมปราสาท ลุยชายแดนแสนระทึก ผ่านด่านล้ำลึกเข้าไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน กว่าจะกลับถึงอันดามัน ตักเข้าไปถึง 11 วัน ชำนาญ ณ.อันดามัน จะเล่าเรื่องราวในแต่ละวัน เป็นตอนๆ เชิญพี่น้องติดตามความระทึกได้ ณ.บัดนี้..
เริ่มการเดินทาง วันที่ 16 ก.ค.54 เมื่อเวลาหกโมงเช้านิดหน่อย คณะ 4 คน ออกจากภูเก็ตด้วยรถฟอจูนเนอร์ของน้องชาย และจะไปรับหลานอีก 2 คนที่สุพรรณบุรี
โดยน้องชายจะแวะหาหมอตามนัดที่ หนองขรี อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เป็นจุดหมายแรก
จากภูเก็ตโดนฝนบ้างเป็นบางช่วง เราถึงร้านหมอเมื่อเวลาเกือบ 9 โมงเช้า มีคนไข้รอตรวจอยู่ก่อนแล้วหลายราย จึงใช้เวลาเกือบชั่วโมงกับการรอคิว ช่วงที่รอหมอตรวจ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเปล่า พวกเราเติมพลังกันด้วยอาหารตามสั่ง ที่ร้านเล็กๆ ข้างร้านหมอ กระทั่งเกือบ 10 โมง เสร็จสิ้นกระบวนการ จึงได้ออกจากที่นั่น มุ่งหน้าสู่จังหวัดสุพรรณบุรีเป็นจุดหมายต่อไป
จากหนองขรี อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ฯ บนถนนสายเอเชีย เลนซ้ายเต็มไปด้วยความขรุขระ  เป็นหลุมบ่อเป็นบ่อ ขาดแหว่ง น้ำขัง ถ้าขับไม่ระวังบ่อยครั้งได้เห็นรถหลากหลายชนิด ลงไปนอนหลับสนิทอยู่ข้างถนน หากต้องการความปลอดภัยของชีวา ต้องวิ่งเลนขวาตลอด แต่ต้องจอดเป็นช่วงๆ เมื่อทางหลวงเขาโบกมือ!..อิอิ..
ถึงสี่แยกปฐมพร จังหวัดชุมพร ที่กำลังวุ่นวาย อึกกะทึก กับการก่อสร้างสะพานข้ามทางแยก(น่าจะสร้างตั้งแต่เมื่อ 30 ปีก่อน) เราแหวกขึ้นสาย 4 เพชรเกษม ซึ่งสภาพถนนไม่แตกต่างจากสายเอเชียที่ผ่านมา ปะมั่ง โปะมั่ง รุงรัง ดูไม่จืด ทำเอาเราเอวเคล็ด หัวคลอน ตามๆกัน จากการเขย่าจังหวะร๊อคของรถ
เราแวะกินข้าวเที่ยงเมื่อตอนบ่ายๆ ที่ไหนสักแห่ง จำไม่ได้ นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก แต่ชั่งมันเถอะ เอาเป็นว่าได้กินก็แล้วกัน...ฮ้า ฮ้า ฮ้า...
ฝ่าฝน ฝ่าแดด บางช่วง บางตอน ร่อนระทึก ฉึก ฉึก มาบนถนนสายโลกพระจันทร์ เมื่อเลย 6 โมงเย็น แต่ยังไม่เห็นแสงไฟ เราเข้าสู่ตัวเมืองจังหวัดสุพรรณบุรี ของท่านบรรหาร ศิลปะอาชา ที่ได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดที่มีถนนดีที่สุดในประเทศไทย และมีเสาไฟฟ้า ต้นละล้านบาทหลายต้น

ศาลหลักเมืองสุพรรณบุรี

หอคอยบรรหาร-แจ่มใส

เราตรงดิ่งไปยังที่พักของหลาน ซึ่งเป็นอะพาทเม้นท์หลายชั้น อยู่บนถนนชื่อมาลัยแมน ใกล้ๆกับวัดป่าเลย์ไลย ที่มีชื่อลือเลื่องของเมืองสุพรรณบุรี
พวกเราขนกระเป๋าเสื้อผ้า สัมภาระซึ่งมากมายเหมือนย้ายบ้าน ผ่านทางลิฟท์ขึ้นไปที่ห้องของหลานบนชั้น 3 เป็นที่เรียบร้อย ด้วยความตั้งใจค้างคืน...
เกือบทุ่ม พรรคพวกของผม คุณเรวัติ น้อยวิจิตรในนาม ผอ.ศูนย์ข่าว นสพ.พลังชน จังหวัดสุพรรณบุรี (ซึ่งผมโทรหาตั้งแต่เริ่มออกเดินทาง) เขาแวะเข้ามารับไปกินอาหารค่ำ ประมาณว่า เป็นการรับรอง หัวหน้าศูนย์ข่าวภาคใต้ ว่างั้นเถอะ พูดให้เว่อร์เข้าไว้ อิอิ..

จากซ้าย-นที รุ่งเรื่องศรี(เจ้าของร้านเรือนไทย) ชำนาญ ณ.อันดามัน
และเรวัติ น้อยวิจิตร(ผอ.นสพ.พลังชน สุพรรณบุรี)

คุณเรวัติ พาเราทั้ง 6 คน(โดยผมนั่งรถของเขา) ไปยังร้านอาหารชื่อเรือนไทย อยู่ในซอยบนถนนนางเทพทองของคุณนที รุ่งเรืองศรี บก.นสพ.คอสุพรรณ (ขอขอบคุณ ทั้ง 2 ท่านมา ณ.ที่นี้ด้วย ที่ได้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น)
บรรยากาศของร้าน ร่มรื่น นักร้องสาวสวย เสียงดี ร้องเพลงเบาๆให้ฟัง เฮ้อ...น่ากรึ๊บซะเกินบรรยาย  แต่เสียดาย เป็นวันเข้าพรรษา เขาไม่ให้กินเหล้า ข้าพเจ้าจึงได้แต่นั่งเปรี้ยวปาก เอือกกกก...

ซุ้มประตูร้านอาหารเรือนไทย

บรรยากาศภายในร้านอาหารเรือนไทย
เสร็จสรรพจากอาหารมื้อนั้นเมื่อ 3 ทุ่มเศษ เราแยกกับคุณเรวัติที่หน้าร้านอาหาร โดยพวกเราพากันไปดูเทียนพรรษาที่วัดป่าเลย์ไล ซึ่งได้ข้อมูลมาว่า มีการจัดสร้างเทียนพรรษาอย่างอลังการ สวยงามและมีขบวนแห่ยิ่งใหญ่เมื่อวันที่ผ่านมา มีการประกวดความสวยงามของเทียนเหล่านั้น และจัดงานสมโภชน์หลายวัน ทุกอย่างเลียนแบบมาจากจังหวัดอุบลราชธานี แต่อาจจะไม่ยิ่งใหญ่เท่า ด้วยเหตุผล ยังมือใหม่!..
พวกเรามาถึงวัดป่าเลย์ไล ในอีกไม่กี่นาทีต่อมา ผู้คนค่อนข้างน้อย เนื่องจากฝนเพิ่งจะหยุดตก บรรยากาศคึกคักพอสมควร ภาพโดยรวมก็เหมือนงานวัดทั่วๆไป แต่ที่ขัดตาผมอยู่บ้างก็บนเวทีดนตรีลูกทุ่งขนาดใหญ่ หน้าศาลาการเปรียญนั่น มีสาวโคโยตี้ นุ่งน้อย ห่มน้อย หลายนาง กำลังเต้นกระเด้าหน้า กระเด้าหลัง ตามจังหวะเพลงอย่างเร้าร้อน จนจีวรพระ เณร ที่ยืนแอบๆ อยู่ตามมุมมืดของกุฏิด้านหลัง กระพือพรึ๊บๆ
                พวกเราเดินชมงานและเก็บภาพต่างๆ กระทั่งฝนเริ่มโปรยเม็ดลงมา เมื่อประมาณ 4 ทุ่ม จึงชวนกันกลับ อะพาทเม้นท์ เพื่อพักผ่อนหลับนอน ชาร์ทแบ็ต เติมพลังไว้เดินทางในเช้าของวันรุ่งขึ้น...
 ประมวลภาพสุพรรณบุรี

บรรยากาศภายในวัดป่าเลย์ไล

เวทีดนตรีลูกทุ่งภายในวัด

เทียนพรรษา หลากหลายรูปแบบ









-----------------------------

ปลาช่อนอะเมซอน หน้าอะพาทเม้นท์ที่พักค้างคืน

ปลาดุก อะเมซอน
 ***รอติดตาม "ตอนที่2 ปราสาทพนมรุ้ง" เร็วๆนี้ครับ พี่น้อง***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อ่านเรื่องราวกันก่อนแล้วค่อยต้ดสินใจและแบ่งปัน