วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เหตุเกิดที่ห้องจักษุวิทยา!!!!

เช้าวันนี้ ผมไปโรงพยาบาลประจำจังหวัด เพื่อให้หมอตรวจสายตาหลังจากที่ได้ผ่าตัดใส่เล็นเทียมผ่านมาๆได้ครบปี

ผมไปถึงโรงพยาบาลเกือบ 9 โมงเช้า หลังจากผ่านขั้นตอนอันซับซ้อนยุ่งยากที่ห้องบัตร กระทั่งได้รับใบคิวตรวจ จึงรีบตรงไปยังห้องตรวจตา(แผนกจักษุวิทยา) ด้วยความคิดว่าวันนี้ตัวเรามาถึงตั้งแต่เช้า คงจะตรวจเสร็จเร็ว และได้กลับเร็ว แต่เมื่อไปถึงหน้าห้องตรวจตา ผมเกือบจะเปลี่ยนใจกลับบ้าน เมื่อเห็นมีคนนั่งรออยู่ที่หน้าห้องตรวจเกือบ 100 คน

ยืนลังเล ชั่งใจสักพัก จึงตัดสินใจเด็ดขาด ด้วยความคิดว่า ไหนๆก็เสียเวลามาแล้ว ยังไงก็ต้องรอ จึงไปยื่นบัตรคิวแล้วนั่งรอเรียกชื่อ

ผมนั่งฟังเสียงผู้ช่วยพยาบาลเรียกชื่อผู้ป่วยเข้าทำประวัติครั้งละ 5 คน กระทั่งเกือบ 11 โมง จึงได้ยินชื่อผมติดอยู่ในลำดับสุดท้ายของกลุ่ม 5 คน

คนแรกเป็นบัง อายุประมาณ 40 กว่า ผู้ช่วยพยาบาล วัดความดัน ถามน้ำหนัก ถามอาการ ลงประวัติแล้วบอกให้เข้าไปในห้องทดสอบสายตา

คนที่สอง เป็นเด็กหนุ่ม อายุประมาณ 20 กว่าๆ ผ่านไป

คนที่สามเป็นผู้ชายเชื้อสายจีน อายุน่าจะเกิน 70 และเท่าที่ผมสังเกตุอาการทางสายตาของแกคงหนักหนาไม่น้อย เพราะแกค่อยๆเดินเข้าไปอย่างขาดความมั่นใจ เหมือนกับผมเมื่อก่อนผ่าตัดใส่เล็นเทียม

ผู้ช่วยพยาบาลวัดความดันให้แกเสร็จ แล้วจึงถามน้ำหนักของแก แกบอกว่าไม่รู้!..

ผู้ช่วยพยาบาลจึงชี้ให้แกไปชั่งน้ำหนัก ที่หน้าห้องตรวจ หู คอ จมูก ซึ่งอยู่ถัดไปทางหน้าลิ๊ฟ ติดกับบันไดขึ้น ลง ห่างออกไปไม่เกิน 15 เมตร

แกเดินออกไปอย่างว่าง่าย..

ต่อจากนั้น ผู้ช่วยฯเรียกคนที่สี่ เป็นเด็กผู้หญิงอยู่ในชุดนักเรียนมัธยมต้น เสร็จเรียบร้อยตามขั้นตอน ส่งเข้าห้องทดสอบสายตา

ผู้ช่วยฯชะเง้อมองหาลุงคนที่สาม แต่ยังไม่เห็นกลับมา รวมเวลาที่แกหายไปชั่งน้ำหนัก เกิน 10 นาที นานเกินไป กับระยะทาง 15 เมตร

ผู้ช่วยฯ จึงเรียกผมเข้าไปก่อน และในขณะที่ผู้ช่วยฯ ลงประวัติของผมเสร็จพอดี ลุงคนที่สาม ก็ค่อยๆเดินอย่างระมัดระวังกลับเข้ามา

ผู้ช่วยพยาบาลละสายตาจากผม หันไปถามแกว่า “ชั่งน้ำหนักได้กี่โลฯละลุง?”

“ยังไม่ได้ชั่ง” แกตอบกลับมาช้าๆ

“อ้าววว...ทำไมละลุง?” ผู้ช่วยฯ ร้องเป็นแมวตัวเมีย

“อั๊ว หาที่ชังไม่เจอ” แป๊ะพูดด้วยสีหน้าเศร้า อย่างผิดหวัง

“อ้าวว..แล้วลุงไปหาที่ไหน?” เสียงแมวตัวเมียร้องมาอีก

“อั๊ว ไปที่บันได ตามที่ลื้อบอก” แป๊ะ ยืนยัน

“ไม่ใช่ที่บันได..ลุง!..ที่หน้าห้องตรวจ หู คอ จมูก มองเห็นอยู่นั่นไง” ผู้ช่วยพูดพร้อมกับหัวเราะหนักๆ แต่ไม่รู้ว่าขำจริงหรือโมโหจนขำ!?...

“ก็..อั๊ว มองไม่เห็น” แป๊ะ พูดอย่างน่าสงสาร

“โอเค.ลุง เดี๋ยวหนูพาไป” ผู้ช่วยฯ บอกกับแก ก่อนจะผลักหลังผมให้เข้าไปในห้องทดสอบสายตา

ในห้องทดสอบสายตา มีผู้ป่วยนั่งรอทดสอบอยู่เกือบ 10 คน ผมจึงต้องนั่งรออีก

ห้องทดสอบสายตา มีอุปกรณ์เหมือนกับตามร้านตัดแว่นทั่วๆไป มีกล่องสี่เหลี่ยมที่มีไฟอยู่ด้านใน และติดตัวเลข ขนาดต่างๆไว้ด้านนอก มีเก้าอี้วางห่างออกมา ประมาณ 3 เมตร เพื่อให้ผู้ทดสอบสายตานั่งอ่านตัวเลขบนกล่องนั้นโดยการปิดตาด้วยมือข้างหนึ่งและปิดด้วยอุปกรณ์ทางการทดสอบอีกข้างหนึ่ง

หลังจากที่ผมหาเก้าอี้ว่างนั่งได้ เป็นเวลาเดียวกันกับถึงคิวของป้าคนหนึ่งทดสอบสายตาพอดี

เมื่อแกนั่งลงบนเก้าอี้เรียบร้อย พยาบาลส่งอุปกรณ์อันหนึ่งให้แก มีลักษณะแบนๆ บางๆ สีดำๆ มีด้ามจับ แกรับไปถือไว้อย่าง งงๆ..

พยาบาลพูดกับแกว่า “ป้า!..เอามือข้างซ้ายปิดตาซ้ายไว้นะ”

แกทำตามโดยดี

พยาบาลพูดต่อว่า “ทีนี้..ป้าเอาอันที่หนูให้ป้าถืออยู่นั่นปิดตาขวา แล้วป้าอ่านตัวเลขบนกล่องนั้นให้หนูฟังนะ”

เมื่อพยาบาลพูดจบ ป้าแกรีบเอามือออกจากการปิดตา แล้วหันไปพูดกับพยาบาล อย่างข้องใจ..

“ใช้สองข้างมองยังไม่ค่อยจะเห็น นี่บอกให้ปิดทั้งสองข้าง แล้วป้าจะมองเห็นได้ไงหล่ะอีหนู?” เออ..จริงของแกแฮะ อิ อิ..

“เห็นสิป้า..ไอ้ไม้แบนๆที่ป้าถืออยู่นั่น เขาเจาะรูไว้ให้รูหนึ่ง” พยาบาลพูดกับแกยิ้มๆ

“งั้นเร่อะ!..ก็ไม่บอกตั้งแต่แรก” แกพูดเสียงอ่อย แบบเหนียมๆ

นั่นแหละกระบวนการทดสอบสายตาของป้า จึงได้ดำเนินต่อไปจนจบขั้นตอน

คนต่อไปและคนต่อไป ทยอยเข้าทดสอบ

จนกระทั่ง ได้ยินเสียงพยาบาลเรียก “เรมิว ชาวพม่า”

หลังจากจบเสียงเรียกประมาณอึดใจ ผู้หญิงอายุประมาณ 20 กว่าๆ ที่นั่งอยู่ข้างๆผม ลุกขึ้นเดินไปหาพยาบาล

พยาบาลบอกให้เธอนั่งที่เก้าอี้!..

แต่เธอยืนมองหน้าพยาบาลเฉย..

พยาบาลถามว่า “เรมิว ชาวพม่าใช่ไหม?”

เธอพยักหน้า...

พยาบาลชี้มือไปที่เก้าอี้ พร้อมกับพยักหน้าให้เธอ!..

นั่นแหละ เธอจึงได้นั่งลง..

พยาบาลบอกให้เธอเอามือปิดตาข้างซ้าย!..

เธอนั่งมองหน้าพยาบาลเฉย...

พยาบาล จับมือของเธอเอาไปปิดตาข้างซ้าย

ทีนี้เธอเข้าใจ เอาไอ้ไม้แบนๆ ปิดตาข้างขวาด้วยตัวเอง

พยาบาลบอกกับเธอว่า “อ่านตัวเลขบนกล่องนั่นดังๆนะ”

เธอนั่งเฉย....

“อ่านสิ..อ่านดังๆ” คุณพยาบาล เริ่มหงุดหงิด

โธ่..คุณพยาบาลครับ!!!..คุณก็รู้ว่าเธอเป็นชาวพม่า จะให้เธออ่านเป็นภาษาอะไรละครับ?

1 ความคิดเห็น:

อ่านเรื่องราวกันก่อนแล้วค่อยต้ดสินใจและแบ่งปัน